อาเซียน (ASEAN)
ASEAN ย่อมาจากคำว่า Association
of Southeast Asian Nations มีชื่อเป็นทางการว่า
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเรียกสั้นๆ ว่า อาเซียน
อาเซียน
ก่อตั้งขึ้นโดยประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนิเซีย
มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ร่วมกันจัดทำ ปฏิญญาอาเซียน (The ASEAN Declaration) ที่มีชื่อว่า ปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok
Declaration) เนื่องจากมีการลงนามปฏิญญาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.
2510 ที่วังสราญรมย์ซึ่งในเวลานั้นเป้นที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศ
กรุงเทพมหานคร
ผู้แทนทั้งห้าประเทศที่เป็นผู้ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯประกอบด้วย
1. ไทย-พันเอก (พิเศษ) ดร.ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลจอมพลถนอม
กิตติขจร
2. อินโดนิเซีย-นายอาดัม มาลิค
รัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
3. มาเลเซีย-นายตุน อับดุล ราซัค บิน อุสเซน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ
4. ฟิลิปปินส์-นายนาร์ซิโซ รามอส
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
5. สิงคโปร์-นายเอส. ราชารัตนัม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ปฏิญญากรุงเทพฯ กำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งอาเซียนไว้ 7 ประการดังนี้
1. ส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม
วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบริหาร
2. ส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคงในภูมิภาค
3. เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ พัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค
4. ส่งเสริมให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี
5. ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในรูปของการฝึกอบรมและการวิจัย
และส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
6. เพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม
การขยายการค้าตลอดตนการปรับปรุงการขนส่งและคมนาคม
7. เสริมสร้างความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก
องค์กรความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่น และองค์กรระหว่างประเทศ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2514 ประเทศสมาชิกได้ลงนามในปฏิญญาสมานฉันท์อาเซียน
ให้ก่อตั้ง สำนักงานเลขาธิการอาเซียน (ASEAN
Secretariat) ขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนิเซีย
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อระหว่างประเทสสมาชิก
ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ
คงเหลือแต่สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเตเพียงประเทศเดียวในภูมิภาคนี่ที่ยังไม่ได้เข้าเป็นสมาชิก
เนื่องจากเป็นประเทศที่เพิ่งเกิดใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2545 มานี้เอง
นับตั้งแต่ก่อตั้งอาเซียนเป็นต้นมา
ประเทศสมาชิกมีความร่วมมือกันในหลายด้าน ทั้งเวทีในระดับทวิภาคี ในภูมิภาค
และในเวทีโลก เช่น การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) ในปี พ.ศ.2535
เพื่อส่งเสริมให้มีการค้าขายในภูมิภาคมากขึ้น
ด้วยการลดภาษีศุลกากรระหว่างกันและการทำสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(TReaty on the Southeast Asian Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ในปี พ.ศ. 2538
เป็นต้น
หลังจากอาเซียนรวมตัวกันมาเป้นเวลา 40 ปี
ประเทศสมาชิกทั้งหมดเห็นตรงกันว่าอาเซียนควรพัฒนาความร่วมมือให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
เพื่อให้ภูมิภาคนี้มีความมั่นคงทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
มีอำนาจต่อรองในเวทีโลกมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในเดือนตุลาคม พ.ศ.2546
ประเทศสมาชิกจึงลงนามร่วมกันในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน ฉบับที่ 2 (Declaration of ASEAN Concord ll หรือ Bali Concord ll) เพื่อยกฐานะอาเซียนจากสมาคมเป็นประชาคม
และประกาศจัดตั้ง ประชาคมอาเซียน (ASEAN
Community) ภายในปี พ.ศ.2563 หรือ ค.ศ.2020
ต่อมาในการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ 13 เมื่อปี พ.ศ.2550 ที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันลงนามใน
กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) เพื่อการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนเร็วขึ้น
คือ ภายในปี พ.ศ.2558 โดยกฎบัตรอาเซียนนี้มีวัตถุประสงค์หลัก คือ
1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนในการดำเนินการตามเป้าหมายต่างๆ
2. เพื่อสร้างกลไกส่งเสริมให้รัฐสมาชิกปฏิบัติตามความตกลงต่างๆของอาเซียน
3.เพื่อให้อาเซียนเป็นองค์กรที่ใกล้ชิดและสร้างประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริงมากขึ้น
ในการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน
ต้องอาศัยแนวทางในการสร้างความรู้ดังนี้
1. สร้างค่านิยมและแนวปฏิบัติร่วมกัน เช่น
ค่านิยมในเรื่องการไม่ใช้กำลังยึดหลักสันติวิธี และการไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
เพื่อสร้างความสงบสันติภายในภูมิภาค
2. เสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางการทหาร
เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและป้องกันความขัดแย้งที่รุนแรง
3.
เสริมสร้างขีดความสามารถของอาเซียนในการเผชิญภัยคุกคามความมั่นคงของมนุษย์
ตลอดจนจัดทำข้อมูลกลางในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติในอาเซียน
เพื่อใช้แก้ไขปัญหาการก่อการร้าย การค้ายาเสพติด
และอาชญากรรมข้ามชาติ
4.
เตรียมความพร้อมสำหรับบุคลากรในสาขาต่างๆ อาทิ ภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น
เนื่องจากอาเซียนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางหรือภาษาราชการในการประสานงาน
ส่วนภาษาท้องถิ่นใช้สำหรับการติดต่อสื่อสารกับประชาชนและนักท่องเที่ยวในประเทศสมาชิก
5. ศึกษาข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะตัวบทกฎหมายของสมาชิกแต่ละประเทศ
เนื่องจากมีความแตกต่างกัน เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างความร่วมมือ
และป้องกันความขัดแย้งระหว่างประเทศ
6. จัดตั้งสำนักงาน ส่วนงาน เพื่อดูแลความรับผิดชอบงานด้านอาเซียน
7. ศึกษาวัฒนธรรมของสมาชิก โดยเฉพาะประเทศที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเพื่อสร้างความเข้าใจและการปฏิบัติต่อประชาชนได้อย่างถูกต้อง
เสาหลักของประชาคมอาเซียน
ในเดือนกุมภาพันธ์
พ.ศ.2552
ประเทศสมาชิกได้รับรองปฏิญญาชะอำ-หัวหินเกี่ยวกับแผนการจัดตั้งประชาคมอาเซียน
โดยได้กำหนดให้มีความร่วมมือ 3 ด้าน หรือเรียกว่าเสาหลักทั้งสาม อันได้แก่
- ประชาคมการเมืองและความมั่นคงของอาเซียน (ASEAN Political-Security Community: APSC)
จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประเทศสมาชิกอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและข้อพิพาทต่างๆ ด้วยสันติวิธี
รวมถึงความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย และเน้นการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
- ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)
จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเศรษฐกิจมั่นคง
สามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น โดยมีแผนงานการดำเนินงานดังนี้คือ
1. มีตลาดและฐานการผลิตเดียว สามารถเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน
เงินทุน และแรงงานอย่างเสรี
2. ส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
โดยให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ทรัพย์สินทางปัญญา
และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3. พัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความเสมอภาคกันของประเทศสมาชิก
4.
ประสานนโยบายกับนานชาติเพื่อให้ดำเนินเศรษฐกิจได้อย่างกลมกลืนกับเศรษฐกิจโลก
- ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio Cultural Community: ASCC)
จัดตั้งขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนในภูมิภาคอาเซียน
โดยมีแผนงานความร่วมมือ 6 ด้าน คือ
1. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ให้มีการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เหมาะสมแก่การนำไปประกอบอาชีพ
2. พัฒนาสวัสดิการสังคม เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี
ได้รับการบริการทางการแพทย์อย่างเท่าเทียม
3. พัฒนาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ธรรมชาติ
4. ลดช่องว่างการพัฒนาประเทศ
ให้ภูมิภาคนี้เจริญเติบโตอย่างทัดเทียมกัน
5. พัฒนาด้านสิมธิมนุษยชน
6. สร้างอัตลักษณ์อาเซียน
ส่งเสริมความเข้าใจในความคล้ายคลึงและแตกต่างกันของวัฒนธรรมของแต่ละประเทศในอาเซียน
กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter)
กฎบัตรอาเซียน (ASEAN Charter) คือ
ธรรมนูญหรือกฎหมายสูงสุดของประเทศสมาชิกอาเซียน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15
ธันวาคม พ.ศ.2551 ประกอบด้วยบทบัญญัติ 13 บท 55 ข้อ
ซึ่งมีสาระสำคัญที่ควรรู้ดังนี้
วัตถุประสงค์ของการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน
1.เพื่อส่งเสริมและรักษาสันติภาพในภูมิภาคให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
2. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
และสังคมวัฒนธรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
3. เพื่อทำให้ภูมิภาคอาเซียนให้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงอื่นๆ
4.
เพื่อให้ประชาชนและรัฐสมาชิกของอาเซียนอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้โดยสันติ
5. เพื่อสร้างตลาดและฐานการผลิตเดียวที่มีเสถียรภาพ
ความมั่นคั่งมีความสามารถในการแข่งขันสูง
6. เพื่อบรรเทาความยากจนและลดช่องว่างการพัฒนาในอาเซียน
7. เพื่อเสริมสร้างประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล หลักนิติธรรม
รวมถึงส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
8. เพื่อความร่วมมือในการต่อต้ายอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ
9. เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมในภูมิภาคและสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
10. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกันในด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
11. เพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคมีความอยู่ดีกินดี
มีโอกาสเท่าเทียมกันในการพัฒนามนุษย์ สวัสดิการสังคม
12. เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมั่นคง
และปราศจากยาเสพติด
13.
เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของภูมิภาคนี้มีส่วนร่วมและได้รับผลประโยชน์จากกระบวนการรวมตัวและการสร้างประชาคมอาเซียน
14. เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของอาเซียนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
15. เพื่อเป็นองค์กรที่มีพลังในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆในเวทีโลก
หลักปฏิบัติของอาเซียน
กฎบัตรอาเซียน กำหนดให้อาเซียนและประเทศสมาชิกปฏิบัติตามหลักการดังต่อไปนี้
1. เคารพเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแห่งดินแดน
และอัตลักษณ์แห่งชาติของรัฐสมาชิกอาเซียนทั้งปวง
2. ผูกพันและรับผิดชอบร่วมกันในการเพิ่มพูนสันติภาพ ความมั่นคง
และความมั่งคั่งของภูมิภาค
3. ไม่รุกรานหรือข่มขู่ว่าจะใช้กำลังหรือการกระทำอื่นใดในลักษณะที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
4. ระงับข้อพิพาทโดยสันติ
5. ไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐสมาชิกอาเซียน
6.
เคารพสิทธิของรัฐสมาชิกทุกรัฐในการธำรงประชาชาติของตนโดยปราศจากการแทรแซง
การบ่อนทำลาย และการบังคับจากภายนอก
7. ปรึกษาหารือที่เพิ่มพูนขึ้นในเรื่องที่มีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อผลประโยชน์ร่วมกันของอาเซียน
8. ยึดมั่นต่อหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล
หลักการประชาธิปไตยและรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ
9. เคารพเสรีภาพพื้นฐาน การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
และการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม
10. ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ
รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่รัฐสมาชิกอาเซียนยอมรับ
11. ละเว้นจากการทีส่วนร่วมในการคุกคามอธิปไตย
บูรณภาพแห่งดินแดนหรือเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัฐสมาชิกอาเซียน
12. เคารพวัฒนธรรม ภาษา และศาสนาที่แตกต่างของประชาชนอาเซียน
13. มีส่วนร่วมกับอาเซียนในการสร้างความสัมพันธ์กับภายนอกทั้งในด้านการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคม โดยไม่ปิดกั้นและไม่เลือกปฏิบัติ
14. ยึดมั่นในกฎการค้าพหุภาคีและระบอบของอาเซียน
ประธานอาเซียน
ผู้นำแต่ละประเทศหมุนเวียนกันเป็นประธานอาเซียนในแต่ละปี
โดยให้เรียงลำดับประเทศตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ โดยประธานอาเซียนมีหน้าที่ดังนี้
1.เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
2.เป็นประธานคณะมนตรีประสานงานเอเซียน
3.เป็นประธานคณะมนตรีประชาคมอาเซียนทั้งสามคณะ
4.เป็นประธานองค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้อง
5.เป็นประธานคณะกรรมการผู้แทนถาวร
รัฐสมาชิกซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนมีหน้าที่ดังนี้
1.ส่งเสริมการสร้างประชาคมอาเซียนให้เป็นศูนย์รวมของประเทศสมาชิกอย่างมั่นคง
2.ตอบสนองต่อปัญหาเร่งด่วนหรือสถานการณ์วิกฤตที่มีผลกระทบต่ออาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ
3.เป็นตัวแทนของอาเซียนในการเสริมสร้างและส่งเสริมความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนภายนอกภูมิภาค
4.ปฏิบัติตามหน้าที่และภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
อัตลักษณ์และสัญลักษณ์ของอาเซียน
ภาษาอาเซียน : ภาษาทางการที่ใช้ในการติดต่อประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกคือ
ภาษาอังกฤษ
คำขวัญ
คำขวัญของอาเซียน (ASEAN Mooto) คือ
วิสัยทัศน์เดียว อัตลักษณ์เดียว ประชาคมเดียว One Vision, One
Identity, One Community
ดวงตราอาเซียน
ดวงตราอาเซียนเป็นรูปมัดรวงข้าวสีเหลืองบนพื้นวงกลมสีแดง สีขาว
และสีน้ำเงิน
รวงข้าวสีเหลือง 10 มัด หมายถึง
ความใฝ่ฝันของบรรดาสมาชิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ ให้มีอาเซียนที่ผูกพันกันอย่างมีประสิทธิภาพ
วงกลม เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงเอกภาพของอาเซียน
ตัวอักษรคำว่า asean สีน้ำเงิน
อยู่ใต้ภาพรวงข้าว แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อความมั่นคง สันติภาพ
เอกภาพ และความก้าวหน้าของประเทศสมาชิกอาเซียน
สีน้ำเงิน หมายถึง
สันติภาพและความมั่นคง
สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า
สีขาว หมายถึง
ความบริสุทธิ์
สีเหลือง หมายถึง
ความเจริญรุ่งเรือง
ธงอาเซียน
ธงอาเซียนเป็นธงพื้นสีน้ำเงิน มีดวงตราอาเซียนอยู่ตรงกลาง แสดงถึงเสถียรภาพ
สันติภาพ ความสามัคคี และพลวัตของอาเซียน
สีของธงประกอบด้วยสีน้ำเงิน สีแดง สีขาว และสีเหลือง
ซึ่งเป็นสีหลักในธงชาติของบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด
สัดส่วนความกว้างต่อความยาวของธงคือ 2:3
ธงอาเซียนมีหลายลักษณะตามการใช้งาน คือ
ธงตั้งโต๊ะ ขนาด10x15 เซนติเมตร
ธงประดับห้อง ขนาด 100x150 เซนติเมตร
ธงประจำรถ ขนาด 20x30 เซนติเมตร
ธงภาคสนาม ขนาด 200x300 เซนติเมตร
วันอาเซียน
กำหนดให้เป็นวันที่ 8 สิงหาคมของทุกปีเป็นวันอาเซียน
เนื่องจากเป็นวันลงนามปฏิญญากรุงเทพเมื่อปี พ.ศ.2510
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอาเซียนนั่นเอง
เพลงอาเซียน
เพลงอาเซียน (ASEAN Anthem) ซึ่งเป็นเสมือนเพลงชาติของประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศเกิดขึ้นจากการจัดประกวดเมื่อปี พ.ศ.2551 เปิดให้ประชาชนในประเทศสมาชิกอาเซียนที่สนใจส่งเพลงเข้าประกวด
โดยมีหลักเกณฑ์ 5 ประการ คือ
1.มีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ
2.มีลักษณะเป็นเพลงชาติประเทศสมาชิกอาเซียน
3.มีคามยาวไม่เกิน 1 นาที
4.เนื้อร้องสะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน
5.เป็นเพลงที่แต่งขึ้นใหม่
ในครั้งนั้นมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งสิ้น 99 เพลง คณะกรรมการการตัดสินซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากแต่ละประเทศในอาเซียนและตัวแทนจากจีน
ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ประเทศละ 1 คน
ได้ตัดสินให้เพลงที่ชนะเลิศได้แก่ The ASEAN Way ประพันธ์โดยนายกิตติคุณ
สุดประเสริฐ (ทำนองและเรียบเรียง) นายสำเภา ไตรอุดม (ทำนอง) และนางพยอม วลัยพัชรา
(เนื้อร้อง)
ทำนองและเรียบเรียง กิตติคุณ สุดประเสริฐ
ทำนอง สำเภา ไตรอุดม
เนื้อร้อง พยอม วลัยพัชรา
The ASEAN WAY
Raise our flag high, sky high
Embrace the pride in our heart
ASEAN we are bonded as one
Lookin' out to the world.
For peace, our goal from the very
start
And prosperity to last.
We dare to dream, we care to share
Together for ASEAN
We dare to dream, we care to share
For it's the way of ASEAN.
เนื้อร้องภาษาไทย สุรักษ์ สุขเสวี
วิถีแห่งอาเซียน
พลิ้วสู่ลมโบกสะบัด ใต้หมู่ธงปลิวไสว
สัญญาณแห่งสัญญาทางใจ
วันที่เรามาพบกัน
อาเซียนเป็นหนึ่งดังที่ใจเราปรารถนา
เราพร้อมเดินหน้าไปทางนั้น
หล่อหลอมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว
อาเซียนยึดเหนี่ยวสัมพันธ์
ให้สังคมนี้มีแต่แบ่งปัน
เศรษฐกิจมั่งคงก้าวไกล
เพลง The ASEAN Way ใช้บรรเลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 ที่อำเภอชะอำ
จังหวัดเพชรบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น